เทคนิคการจัดฟันที่ได้รับความนิยมสูงเห็นได้ตามทั่วไป การจัดฟันเทคนิคนี้จะใช้เครื่องมือที่ทำจากวัสดุโลหะที่มีคุณภาพ ใช้ติดด้านนอกของผิวฟันด้านหน้า และมีการเปลี่ยนยางทุกเดือนเนื่องจากแรงดึงยางที่ลดลง ทำให้ยางดึงฟันหมดอายุการใช้งาน
ในแต่ละเดือนผู้จัดฟันจึงจำเป็นต้องเข้ามาพบทันตแพทย์เพื่อทำการเปลี่ยนยางดึงฟัน
อีกทั้งผู้จัดฟันยังสามารถเลือกสีของยางได้ด้วยตนเอง ซึ่งปัจจุบันเครื่องมือถูกพัฒนาให้มีศักยภาพมากขึ้น ส่งผลให้วัสดุโลหะมีคุณภาพดีขึ้น มีขนาดเล็กลง สียางก็มีให้เลือกมากขึ้น
ทำให้เราสามารถพบเห็นการจัดฟันแบบนี้ได้ในกลุ่มคนทั่วไป ต้องการโชว์สีสันความสวยงามของยางจัดฟัน
ข้อดีของการจัดฟันแบบติดแน่น
- มีราคาย่อมเยา และสามารถผ่อนชำระรายเดือนเป็นงวด ๆ ได้
- สามารถจัดฟัน และช่วยแก้ปัญหาฟันได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นฟันยื่น ฟันซ้อนเก ฟันห่าง ฟันกัดเบี้ยว ฟันกัดคร่อม ฟันสบลึก ฟันสบเปิด หรือ ฟันล้ม โดยทันตแพทย์จะใช้ลวดเหล็กก็สามารถดึงได้หมด
- สามารถออกแบบเลือกสีของยางจัดฟัน ได้ด้วยตัวเองตามใจชอบ โดยจะให้คนไข้เลือกสียางทุกครั้ง ที่เข้าพบทันตแพทย์เพื่อเปลี่ยนยางดึงฟัน
ข้อเสียของการจัดฟันแบบติดแน่น
- ใช้ระยะเวลาในการเรียงตัวของฟันค่อนข้างนาน จึงทำให้การจัดฟันประเภทนี้มักใช้ระยะเวลาประมาณ 2 ปีขึ้นไป
- หากทำความสะอาด หรือ แปรงฟันได้ไม่ดี อาจทำให้เกิดฟันผุได้ ซึ่งมักจะผุบริเวณรอบ ๆ เหล็กที่ติดบนผิวฟัน หรือบริเวณซอกฟันที่แปรงสีฟันยากต่อการเข้าถึง
- ในระยะแรกบริเวณส่วนของแก้ม และริมฝีปากอาจเกิดการระคายเคือง หรือมีแผลร้อนในที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งต้องใช้เวลาในการปรับตัวประมาณ 1-4 สัปดาห์ หลังจากนั้นการระคายเคืองจะลดลงและกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งคนไข้สามารถใช้ขี้ผึ้งในการอุดปิดเครื่องมือที่มีการระคายเคืองได้
ระยะเวลาในการจัดฟันแบบติดแน่น
การจัดฟันแบบติดแน่น (Metal Braces) ปกติแล้วจะใช้ระยะเวลาประมาณ 2 ปีขึ้นไป ทั้งนี้ระยะเวลาของการรักษาจะขึ้นอยู่กับปัญหาทางด้านสุขภาพฟัน และโครงสร้างฟันของแต่ละคน
โดยทันตแพทย์จะเป็นผู้วางแผนการจัดฟันร่วมกับคนไข้ อีกทั้งยังต้องอาศัยความร่วมมือของคนไข้ในการมาพบแพทย์เป็นประจำ และปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด จะทำให้ฟันเรียงตัวสวยงาม และรวดเร็วขึ้นตามแผนการจัดฟันที่วางไว้นั่นเอง